
คำถาม ๑๗/๑/๖๓
กรณีที่พนักงานถูกยื่นฟ้องศาลแล้วศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญาเราต้องให้พนักงานคนนั้นออกจากราชการก่อนไหมคะ
ตอบ
ไม่พบข้อมูลสำคัญ เช่น คดีถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรืออยู่ระหว่างอุทธรณ์ และผู้นั้นได้รับการประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์หรือไม่ นายกฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้วหรือไม่ อย่างไร เป็นต้น
หลักการที่เกี่ยวข้อง มีดังนี้
๑. กรณีข้าราชการส่วนท้องถิ่นถูกฟ้องคดีอาญา นายกฯ ต้องตั้งกรรมการสอบวินัยไปพร้อมกัน (ว ๔)
๒. เหตุในการสั่งให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นออกจากราชการไว้ก่อน โดยความเห็นชอบของ ก.จังหวัด อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
ถ้าปรากฏว่าผู้นั้น
(๑) ถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และนายกฯ เห็นว่าอยู่ในราชการต่อไปจะเกิดความเสียหาย
(๒) ถูกฟ้องคดีอาญาในเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ราชการ โดยอัยการไม่รับเป็นทนายแก้ต่างให้ และนายกฯ เห็นว่าอยู่ในราชการต่อไปจะเกิดความเสียหาย
(๓) มีพฤติการณ์จะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนพิจารณาหรือจะก่อความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น
(๔) อยู่ระหว่างถูกควบคุม ขัง หรือจำคุกติดต่อกันเกินกว่า ๑๕ วันแล้ว
(๕) ถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทั้งก่อนและหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผิดอาญาในเรื่องที่สอบสวน และนายกฯ เห็นว่าข้อเท็จจริงชัดแล้วว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง
(ข้อ ๑๔ ประกอบข้อ ๑๙)
ดังนั้น ตามคำถาม นายกฯ จะสั่งให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นออกจากราชการไว้ก่อน ต้องเข้าเงื่อนไขดังกล่าว ไม่เช่นนั้น นายกฯ จะไม่อาจสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยความเห็นชอบของ ก.จังหวัดได้
และกรณีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุก ๖ เดือน โดยไม่รอลงอาญา หากจำเลยได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ และไม่มีเหตุดังข้างต้น นายกฯ ก็ไม่อาจสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้ เช่นเดียวกัน
อ้างอิง :
๑. หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ สร ๐๙๐๕/ว ๔ ลงวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๐๙
๒. หนังสือกระทรวงมหาดไทย ลับ ที่ ๑๓๓๓๓/๒๔๙๘ ลงวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๔๙๘
๓. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการให้ออกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
ข้อ ๑๔ วรรคหนึ่ง
ข้อ ๑๙ วรรคหนึ่ง
ขอบคุณครับ