• Welcome to ชมรมนิติกรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น:เว็บไซท์อันดับ๑ของวงการท้องถิ่น.
Main Menu

โอนที่ดินให้เป็นที่ราชพัสดุ? กรณีมีผู้บริจาคท่ีดินให้ อบต. และทำตามวัตถุประสงค์แล้ว ต่อมา อบต.ไม่ปร

เริ่มโดย admin, 15-05-2018, 09:07:31

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

admin




โอนที่ดินให้เป็นที่ราชพัสดุ?

กรณีมีผู้บริจาคท่ีดินให้ อบต. และทำตามวัตถุประสงค์แล้ว ต่อมา อบต.ไม่ประสงค์ใช้ที่ดังกล่าวแล้วเพราะมีที่ใหม่ และ ผู้บริจาค ต้องการใช้ที่ดังกล่าวให้เป็นที่ตั้ง รพสต. และทาง อบต.ไม่ขัดข้อง ดังนี้ อบต.จะโอนให้เป็นที่ราชพัสดุ เพื่อให้ รพสต.ขอให้ต่อ โดยอาศัยระเบียบพัสดุ ข้อ 150(3) ไม่ทราบถูกต้องหรือไม่ ขอความเห็นด้วยครับ และมีท่านใดเคยทำในกรณีแบบนี้หรือไม่ (เป็นความประสงค์ของผู้บริจาค + อบต.ไม่ขัดข้อง)

153 1.1.162.* [ วันพุธ ที่ 16 กันยายน 2558 เวลา 12:56 น. ]

ตอนนี้ที่ดินที่ท่านว่า เป็นชื่อของใครครับ เป็นชื่อของ อบต.หรือยัง
โดยคุณ เซรุย 180.180.166.* [ วันพุธ ที่ 16 กันยายน 2558 เวลา 14:03 น. ] ผู้ตอบคนที่ 1
[ ลบคำตอบที่ 1 ]

เป็นของ อบต. แล้วครับ
โดยคุณ 153 1.1.162.* [ วันพุธ ที่ 16 กันยายน 2558 เวลา 14:05 น. ] ผู้ตอบคนที่ 2
[ ลบคำตอบที่ 2 ]

น่าคิดนะครับ เพราะเมื่อเป็นของ อบต.แล้ว ที่ดินย่อมเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ปพพ. การจะโอนไม่ว่าจะให้เอกชน หรือหน่วยงานรัฐคงไม่ง่ายแต่การจะจำหน่ายพัสดุ ตามระเบียบพัสดุ ข้อ 150 (3) ที่ท่านว่า จะต้องมีเหตุผล คือ 1.ไม่จำเป็นที่จะใช้แล้ว 2. ใช้ต่อไปจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า ทรัพย์สินของ อบต.ที่เป็นที่ดิน ไม่น่าจะเข้าข้อ ระเบียบพัสดุ150 ที่สำคัญ ระเบียบพัสดุก็เขียนไม่ชัดว่าถ้าจะโอนต้องทำอย่างไร มีหนังสือสั่งการหรือ ระเบียบอื่นๆ รองรับแค่ไหน แล้วหน่วยงานที่จะรับโอนมีระเบียบ กำหนดขั้นตอนและวิธีการอย่างไร ผมคิดว่า เรื่องนี้ถ้าทำได้คงไม่ใช่เรื่องง่ายครับ เพราะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ท่านใดเคยทำ หรือมีความรู้ก็ช่วยหน่อยครับ เป็นความรู้ครับ
โดยคุณ เซรุย 180.180.166.* [ วันพุธ ที่ 16 กันยายน 2558 เวลา 14:37 น. ] ผู้ตอบคนที่ 3
[ ลบคำตอบที่ 3 ]

บันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรื่องเสร็จที่ 695/2548
เรื่อง การขายอสังหาริมทรัพย์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้มีหนังสือ ที่ มท ๐๘๐๘.๒/๖๗๓๐ ลงวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๘ ถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สรุปความได้ว่า จังหวัดระยองได้มีหนังสือหารือกรณีเทศบาลตำบลบ้านเพ อำเภอเมืองระยอง จะขายที่ดินที่ได้จัดซื้อมาเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝังกลบขยะ จำนวน ๗๖ ไร่ ๑ งาน ๓ ตารางวา แต่ปัจจุบันไม่สามารถใช้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ซื้อมาได้ จึงประสงค์จะขายที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อนำเงินมาเป็นรายได้ของเทศบาล เช่นนี้จะกระทำได้หรือไม่
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า เทศบาลตำบลบ้านเพได้จัดซื้อที่ดินดังกล่าวมาเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝังกลบขยะของเทศบาลตำบลบ้านเพ ซึ่งโดยวัตถุประสงค์ของการใช้มีลักษณะเป็นการสงวนที่ดินไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการจำกัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิ+++ลซึ่งเป็นการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านเพ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเทศบาลตามมาตรา ๕๐ (๓) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ และมาตรา ๑๖ (๑๘) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ดินแปลงดังกล่าวจึงถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๔ และเทศบาลตำบลบ้านเพจะจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินแปลงดังกล่าวมิได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจตามบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๕
เนื่องจากประเด็นปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายและยังไม่เคยมีแนวทางปฏิบัติมาก่อน ประกอบกับเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงหารือว่าความเห็นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นข้างต้นถูกต้องหรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) ได้พิจารณาข้อหารือดังกล่าว ประกอบกับได้รับฟังคำชี้แจงจากผู้แทนกระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ผู้แทนจังหวัดระยอง และผู้แทนเทศบาลตำบลบ้านเพ แล้ว เห็นว่า การที่สุขาภิบาลบ้านเพซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลบ้านเพได้จัดซื้อที่ดินที่เป็นปัญหามาเพื่อใช้ประโยชน์แก่สุขาภิบาลบ้านเพในการดำเนินการตามโครงการจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้ดำเนินการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ที่ดินดังกล่าวจึงมีฐานะเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของสุขาภิบาลหรือเทศบาลโดยเฉพาะ ไม่ว่าเงินที่นำมาซื้อนั้นจะเป็นเงินรายได้ของเทศบาลหรือเป็นเงินที่ได้รับการสนับสนุนมาจากส่วนราชการก็ตาม และโดยที่เทศบาลเป็นหน่วยงานของรัฐ จึงมีฐานะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐและมาตรา ๑๓๐๔[๑] แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้บัญญัติไว้ว่า สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้น รวมทรัพย์สินทุกชนิดของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน โดยคำว่า "แผ่นดิน" ตามมาตรา ๑๓๐๔ นี้ ย่อมจะต้องหมายถึง "รัฐ" หรือ "หน่วยงานของรัฐ" นั่นเอง ดังนั้น เมื่อที่ดินแปลงที่เป็นปัญหานี้เป็นทรัพย์สินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของเทศบาลตำบลบ้านเพโดยเฉพาะ ที่ดินดังกล่าวจึงมีฐานะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามนัยแห่งมาตรา ๑๓๐๔ (๓) และการโอนที่ดินนั้นต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๓๐๕[๒] ที่บัญญัติให้กระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น หากเทศบาลตำบลบ้านเพประสงค์จะโอนขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่เอกชน ก็จำเป็นต้องดำเนินการโดยวิธีเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อโอนที่ดินดังกล่าวตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา ๘[๓] วรรคสอง (๒)

(ลงชื่อ) พรทิพย์ จาละ
(คุณพรทิพย์ จาละ)
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยคุณ นิติกร หนึ่ง 116.58.232.* [ วันพุธ ที่ 16 กันยายน 2558 เวลา 15:36 น. ] ผู้ตอบคนที่ 4
[ ลบคำตอบที่ 4 ]

หารือดีที่สุดคับ...จะได้ชัวร์ และไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
โดยคุณ โชคดี 1.1.181.* [ วันพฤหัสบดี ที่ 17 กันยายน 2558 เวลา 10:02 น. ] ผู้ตอบคนที่ 5
[ ลบคำตอบที่ 5 ]

ขอแจม๑ ความเห็นเมื่อที่ดินเข้าตามม.๑๓๐๔(๓)ย่อมตกเป้นที่ราชพัสดุ กระบวนการของที่ราชพัสดุท่านลองสอบถามราชพัสดุจังหวัดหรือธนารักษ์จังหวัด(อันเดียวกัน)นะท่านเมื่อเข้าที่ราชพัสดุเป็นกระบวนการธนารักษ์จังหวัดจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมระดับจังหวัดว่าผู้ใช้ที่ราชพัสดุแปลงนี้ยินยอมให้ รพ.สต.เข้าใช้ประโยชน์ตามโครกงการที่แนบท้ายแล้วนำไปเสนอในระดับจังหวัดเมื่อคณะกรรมการธนารักษ์จังหวัดไม่ขัดข้อง รพ.สต ก็เข้าดำเนินการได้ กรณีนี้ อบต.ทุ่งเขาหลวงอ.ทุ่งเขาหลวงจังหวัดร้อยเอ็ด.ของผู้ตอบได้เคยขอใช้ที่ราชพัสดุจาก (อนามัยเดิ่มเรียกอนามัยตำบล)โดยพื้นที่อนามัยมีส่วนที่เหลือจากปลูกสร้างอาคารและบ้านพัก โดย อบต.ขอใช้ทำโครงการปรับปรุงเป้นสถานที่ออกกำลังกายโดยแนบโครงการ และระยะเวลาการขอใช้ นำเสนอธนารักจังหวัด และธนารักษ์จังหวัดนำเข้าที่ประชุมระดับจังหวัด เมื่อที่ประชุมมีมติไม่ขัดข้อง ก็ทำข้อตกลงไว้แล้วเข้าดำเนินการได้ประมาณนี้นะท่าน เริ่มต้นที่ประสานงานกับธนารักษ์จังหวัดก่อนครับผม หรือท่านอื่นเห็นต่างอย่างไรช่วยชี้แนะเพิ่มเติมด้วยครับท่าน
โดยคุณ นิติกรอิสาน๐๕๐ 171.98.221.* [ วันอาทิตย์ ที่ 20 กันยายน 2558 เวลา 16:21 น. ] ผู้ตอบคนที่ 6
[ ลบคำตอบที่ 6 ]

อยากให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา