[นายพรนรินทร์ ภูครองหิน]

นิติกรพรขอนำเรียนกรณีศึกษา"นายกเทศมนตรีอนุมัติให้จัดซื้อที่ดินเป็นการทำนิติกรรมอำพรางโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการมีส่วนได้เสียในสัญญากับเทศบาลนายกเทศมนตรีต้องรับผิดทางละเมิดหรือไม่"การที่นายกเทศมนตรีอนุมัติให้จัดซื้อที่ดิน น.ส.3 ก. เพื่อก่อสร้างสถานที่พักผ่อน ไม่มีความโปร่งใส ซื้อราคาสูงกว่าความเป็นจริงทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าที่ดินแปลงดังกล่าว มีราคา ประเมิน 216,600 บาท เนื่องจากนายกเทศมนตรีเคยเป็นผู้ครอบครองมาก่อนและก่อนที่จะมีการซื้อขายให้กับเทศบาลเพียง 6 วัน นายกเทศมนตรี จึงได้โอนขายให้กับนาย ป ในราคา 220,000 บาท และต่อมานาย ป ได้ขายคืนให้แก่นายกเทศมนตรี ในราคา 1,365,000 บาท โดยหน่วยงานจึงให้นายกเทศมนตรีรับผิด คืนเงินจากส่วนต่าง กล่าวคือ คณะกรรมการจัดซื้อที่ดินโดยวิธีพิเศษไม่ได้นำข้อมูลราคาประเมินที่ดิน และราคาซื้อขายที่ดินใกล้เคียงบริเวณที่ดินที่จะซื้อที่ดินครั้งหลังสุด จำนวน 3 ราย ที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานที่ดินจังหวัดมาประกอบการพิจารณาว่าสมควรจะซื้อที่ดินตามราคาที่เสนอหรือไม่ จึงเชื่อว่าการซื้อขายที่ดินดังกล่าวไม่มีการต่อรองราคาแต่อย่างใด พฤติการณ์ดังกล่าวของนายกเทศมนตรีถือว่าอาศัยโอกาสในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ที่ขายที่ดินให้กับนาย ป จึงเป็นการทำนิติกรรมอำพรางโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการมีส่วนได้เสียในสัญญากับเทศบาล นายกเทศมนตรีจงใจซื้อที่ดินไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น การที่มีคำสั่งให้นายกเทศมนตรีต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทางราชการจากราคาที่ดินที่แพงกว่าความเป็นจริงเต็มจำนวน 1,148,400 บาท จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.10/2554) ค้นโดยนิติกรพร อ.10/2554
http://www.admincourt.go.th/admincourt/upload/admcase/Document/judgement/PDF/2550/01012-500620-1F-540117-0000084016.pdf