
คำถาม ๑๔/๒/๖๓
การเยียวยาผู้ถูกสั่งลงโทษปลอดออก แต่ภายหลังปรากฏว่าไม่มีความผิด จึงเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว สามารถใช้ระเบียบกฎหมายตัวไหนในการเยียวยาได้ครับ
ตอบ
ถามสั้น..แต่ตอบยาก เพราะข้อมูลน้อยไป..ตอบตามหลักการ..!!
แยกเป็น ๒ กรณี ได้แก่
๑. การยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.จังหวัด
๒. การฟ้องคดีต่อศาลปกครอง
อธิบาย
๑. ข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ถูกสั่งลงโทษทางวินัย สถานปลดออกจากราชการ มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งลงโทษนั้นต่อ ก.จังหวัด ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่งลงโทษ (ข้อ ๕ ว ๒ และข้อ ๙)
หาก ก.จังหวัด พิจารณาอุทธรณ์แล้วมีมติให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ [ข้อ ๒๑ ก. (๕) (๙)] นั้นเสีย เนื่องจากมิได้กระทำความผิด นายกฯ ต้องสั่งหรือปฏิบัติให้เป็นตามมตินั้น (ข้อ ๒๓) เป็นเหตุผู้นั้นต้องกลับเข้ารับราชการ และให้
(๑) มีสภาพความเป็นข้าราชการต่อเนื่อง
(๒) ได้รับเงินเดือนระหว่างถูกปลดออกจากราชการ เต็มจำนวน [ข้อ ๔ (๒)]
(๓) ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือน เลื่อนระดับ และสวัสดิการอื่น ระหว่างถูกสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น (ได้รับบางอย่าง ต้องศึกษาหลักเกณฑ์เป็นเรื่อง ๆ ไป) หรือ
(๔) กรณี ก.จังหวัด มีมติเกี่ยวกับการเยียวยาอื่นใด ให้นายกฯ สั่งหรือปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น
๒. กรณีศาลปกครองมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้นายกฯ สั่งหรือปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาถึงทึ่สุด (ม.๗๐ ว ๑) นั้น
แต่หากมีคำพิพากษาให้ยกเลิกเพิกถอนคำสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ โดยมิได้กล่าวถึงการเยียวยาใด ๆ ย่อมเป็นกรณีต้องปฏิบัติ ตามข้อ ๑.
อ้างอิง :
๑. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
ข้อ ๕ วรรคสอง
ข้อ ๙
ข้อ ๒๑ ก. (๕) และ (๙)
ข้อ ๒๓
๒. หลักเกณฑ์วิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ถูกสั่งพักราชการ ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ผู้ร้องทุกข์คำสั่งให้ออกจากราชการ ผู้อุทธรณ์คำสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ พ.ศ.๒๕๔๖
ข้อ ๔ (๒)
๓. พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒
มาตรา ๗๐ วรรคหนึ่ง
ขอบคุณทุกความเห็น ครับ