คำถาม ๑๕/๙/๖๘
สวัสดีครับอาจารย์ กรณี ปปช ชี้มูลฐานทุจริตแต่ผิดเล็กน้อย ให้หน่วยงานดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
- ควรตั้งกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง หรือร้ายแรง
- สำนวนการสอบสวนทางวินัยของปปช. ในการพิจารณาลงโทษวินัยไม่ร้ายแรงได้หรือไม่
-กรณีตั้งการสอบสวนแล้วพบว่าเป็นผิดวินัยอย่างร้ายแรง สามารถลงโทษวินัยอย่างร้ายแรงได้หรือไม่อย่างไร
ตอบ
"ทุจริต..ผิดวินัยร้ายแรง..!!"
๑. การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง (ข้อ ๗ ว ๓)
๒. กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า..เรื่องใดมิใช่เป็นความผิดร้ายแรง..จะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา..ดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจก็ได้ (ม.๖๔)
๓. เมื่อปรากฏกรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการท้องถิ่นผู้ใดกระทำผิดวินัยโดยมีพยานหลักฐานในเบื้องต้นอยู่แล้ว ให้นายกฯ ดำเนินการทางวินัยทันที (ข้อ ๒๔ ว ๔)
ดังนั้น เมื่อ ป.ป.ช. "ส่งเรื่อง" มาให้นายกฯ ดำเนินการทางวินัยตามหน้าที่และอำนาจ (ม.๖๔) ย่อมเป็นพยานหลักฐานในเบื้องต้น ไม่ใช่เป็นการ "ชี้มูล" (ข้อ ๙๘ ว ๑) นายกฯ จึงต้องพิจารณาจากเอกสารของ ป.ป.ช.ว่ามีมูลกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ กรณีไม่ชี้ชัดต้องตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง (ข้อ ๒๖ ว ๕) หากสอบสวนแล้วพบว่าเป็นวินัยอย่างร้ายแรง ให้กลับมาตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง (ข้อ ๒๖ ว ๖) ใหม่
อนึ่ง เมื่อมีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยแล้ว กรรมการต้องพิจารณามีมติจากพยานหลักฐานทุกประการ (ข้อ ๖๘) ที่รวบรวมได้ (ข้อ ๗๕)
ข้อสังเกต
กรณีนี้ผู้ร้องเห็นว่าทุจริตจึงร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการ ซึ่ง ป.ป.ช.ยังมิได้นำเข้าสู่กระบวนการไต่สวนเพื่อ "ชี้มูล" (ม.๙๘ ว ๑) ตามปกติ แต่เลือก "ส่งเรื่อง" ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการเอง
อ้างอิง :
๑. หลักเกณฑ์และเงื่อไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) และ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๖๓
ข้อ ๗ วรรคสาม
ข้อ ๒๔ วรรคสี่
ข้อ ๒๖ วรรคห้า และวรรคหก
ข้อ ๖๘
ข้อ ๗๕
๒. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑
มาตรา ๖๔
มาตรา ๙๘ วรรคหนึ่ง
ขอบคุณครับ