[นายพรนรินทร์ ภูครองหิน]

นิติกรพรขอนำเรียนกรณีศึกษา"นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเข้าเป็นคู่สัญญากู้ยืมเงินโครงการเศรษฐกิจชุมชนกับองค์การบริหารส่วนตำบลถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียอันเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหรือไม่"
การที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้เข้าเป็นคู่สัญญากู้ยืมเงินโครงการเศรษฐกิจชุมชน กับองค์การบริหารส่วนตำบล จึงถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียอันเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหรือไม่ อย่างไร ตามกรณีดังกล่าวนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้เข้าเป็นคู่สัญญากู้ยืมเงินโครงการเศรษฐกิจชุมชนอันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งประชาชนทั่วไปรวมทั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตท้องถิ่นนั้น ต่างมีสิทธิได้รับประโยชน์เช่นเดียวกัน การทำสัญญาของนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จึงไม่ถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบล เพราะมิเช่นนั้นจะเท่ากับว่าสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่อาจได้รับประโยชน์ หรือมีสิทธิน้อยกว่าประชาชนทั่วไปจากการรับบริการจัดทำบริการสาธารณะ กล่าวคือ การทำสัญญาโครงการเศรษฐกิจชุมชนดังกล่าว ได้เข้าทำสัญญายืมเงินทุนกับองค์การบริหารส่วนตำบล จึงเป็นกรณีที่องค์การบริหารส่วนตำบลได้จัดทำบริการสาธารณะในการส่งเสริมและสนับสนุนให้แก่กลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นประชาชนในท้องถิ่นนั้นเป็นการทั่วไป จึงไม่เป็นการขัดต่อกฎหมาย และไม่เป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแต่อย่างใด ดังนั้น การที่นายอำเภอได้มีหนังสือแจ้งผู้ฟ้องคดีว่า การเป็นคู่สัญญาของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม่เป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 64 วรรคหนึ่ง (5) และมาตรา 64/2 และไม่เป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งแต่อย่างใด จึงเป็นคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ อ. 1038/2554 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 788/2557 ค้นโดยนิติกรพร

http://www.admincourt.go.th/admincourt/Casefile/admcase/document/signed/pdf/2554/01012-541038-1f-571224-0000542666.pdf